หนุ่ม 19 โอด หวังหาเงินช่วยครอบครัว หางานผ่านเน็ต สุดท้ายมิจฉาชีพหลอก โดนคดีฉ้อโกงผู้อื่น เสียหายเป็นแสน ลั่นไม่อยากเสียอนาคต-วอนคนช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อา’า บิว’วว ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของตน เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ตนเองนั้นโดนมิจฉาชีพหลอก ทำให้ติดค้างเป็นคดีฉ้อโกงกับบุคคลอื่น และมีความสูญเสียมากกว่า 1 แสนบาท

โดยเจ้าตัวได้โพสต์สรุปใจความได้ว่า ในช่วงนี้ครอบครัวของตนนั้นมีภาระ ตนจึงอยากจะหางานพาร์ทไทม์ทำ เพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระของทางบ้าน ทำให้เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนนั้นได้เข้าไปหางานในกลุ่มเฟซบุ๊ก ก่อนจะเจองานหนึ่งที่ลงรายละเอียดว่าเป็นงานเกี่ยวกับการชำระบิล ผ่านทางร้านสะดวกซื้อและแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์

โดยจะมีเงินจากทางบริษัทโอนเข้ามาให้ จากนั้นให้ผมไปชำระบิล ซึ่งตนเห็นว่าเป็นงานที่ทำผ่านทางโทรศัพท์ได้เลยติดต่อไป โดยผู้โพสต์ก็ได้บอกรายละเอียดงาน ว่าเป็นการทำงานเกี่ยวกับชำระบิลต่าง ๆ เหมือนตามที่ระบุไว้ข้างต้น จนวันที่ 25 ก.พ. ผู้โพสต์ก็ได้ลองให้เจ้าของเฟซบุ๊กได้ลองทำงาน โดยเขาแจ้งว่า จะเหมาค่าคอมมิชชั่นให้ก่อน เพราะเป็นการทดลองงานช่วงแรก ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าบริษัทโอนเงินเข้าบัญชีของผม แล้วให้ผมกดเงิน เพื่อไปซื้อบัตรทรูมันนี่ และส่งเลขบัตรให้เขา

Close-up of unrecognizable man touching smartphone screen

เพื่อเขาจะได้นำไปชำระบิลให้กับทางลูกค้า ผมก็ได้ลองทำ และทำไปประมาณ 6-7 งาน ซึ่งก็ยังไม่มีความผิดปกติใด ๆ จนกระทั่งช่วงบ่ายเจ้าของเฟซบุ๊กได้พยายามใช้แอพพลิเคชั่นธนาคารของตน แต่ก็ไม่สามารถทำรายการได้ เมื่อสอบถามไปยังธนาคารก็ทราบว่าบัญชีโดนอายัดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ตนจึงโทรไปสอบถามทาง สภ. ที่สั่งอายัดบัญชี ทาง สภ. ได้แจ้งว่า มีคนสั่งของแล้วโอนเงินเข้ามาบัญชีของตนแล้วไม่ได้ของ จึงเข้ามาแจ้งความไว้ ทำให้ผมทราบว่า ผมและผู้เสียหายรายอื่น โดนขบวนการมิจฉาชีพหลอกแล้ว และเงินที่โอนผ่านบัญชีผม เพื่อให้ผมไปชำระบิล โดยการซื้อบัตรทรูมันนี่นั้น ไม่ได้เป็นเงินของบริษัท แต่เป็นเงินของผู้เสียหายรายอื่น

ซึ่งในขณะนี้ มีผู้เสียหายที่โอนเงินผ่านบัญชีของผมกว่า 7 ราย และยอดเงินรวมกว่าแสนบาท ผมจึงได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองสงขลา เพื่อแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าทำให้ได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น ไม่สามารถช่วยให้ผมหลุดพ้นคดีได้ เพราะเงินผ่านบัญชีของผมโดยตรง จากนั้นผมจึงได้ติดต่อไปยังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งทางศูนย์ได้บอกให้เตรียมหลักฐานให้ได้มากที่สุด แต่ยังไม่ได้บอกว่าต้องปฏิบัติอย่างไรต่อ

ทั้งนี้ด้วยตนนั้นเป็นเพียงนักศึกษา อีกทั้งครอบครัวก็ไม่ได้มีฐานะ จึงไม่มีเงินพอที่จะมาชดเชยให้กับผู้เสียหาย และตนนั้นไม่อยากเสียอนาคต เสียโอกาสทางการศึกษา จึงได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้นมาโพสต์ เพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือใครที่พอจะสามารถช่วยเหลือตนได้ พร้อมทั้งอยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนนั้นเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น จะได้ไม่พลาดเหมือนตน

ที่มา khaosod